
สีทาบ้าน เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานานเข้า ก็มักจะพบเจอปัญหามากมาย โดยเฉพาะสีทาภายนอก ที่จะต้องเจอสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้สภาพสีค่อย ๆ เสื่อมสภาพ ไม่ว่าจะเป็น สีลอก ผิวแตกลาย เป็นคราบ ส่งผลให้บ้านอาจจะดูเก่าทรุดโทรมลงไปได้ ซึ่งแต่ละปัญหาสีที่มักพบเจอ ก็จะมีวิธีจัดการที่แตกต่างกันไป บทความนี้ เราเลยตั้งใจรวบรวม ปัญหาสีทาภายนอกที่มักพบบ่อย พร้อมวิธีจัดการปัญหาเหล่านั้น ให้สีทาบ้าน กลับมาสวยเหมือนใหม่อีกครั้ง
รวมปัญหาสีทาภายนอก ที่พบบ่อย พร้อมวิธีจัดการปัญหา

- ปัญหาสีซีดจาง
ถึงแม้ผลิตภัณฑ์สีทาภายนอก ที่มีในปัจจุบัน จะมีเทคโนโลยีที่เสริมความคงทนต่อการใช้งานในระยะยาวมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่สามารถเลี่ยงปัญหาสีซีดจางไปได้ อาจจะด้วยการค่อย ๆ เสื่อมประสิทธิภาพตามการใช้งานของสีแต่ละเกรด หรือจากปัจจัยสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นลม ฝน หรือรังสียูวี ที่ส่งผลให้สีทาบ้านของเราเริ่มซีดจางลง
แนวทางการแก้ไข ปัญหาสีซีดจาง
- เริ่มต้นจากการจัดการพื้นผิว ด้วยการขัดสีเก่าออก เตรียมพื้นผิวให้สะอาด ปรับพื้นผนังให้สม่ำเสมอ
- เลือกลงสีรองพื้นให้เหมาะสมกับพื้นผิว เพื่อช่วยเสริมแรงยึดเกาะให้กับสีทาทับหน้า
- เลือกลงสีทาทับหน้าที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยให้ทาสีบ้านภายนอกของคุณกลับมาสวยเหมือนใหม่แล้ว ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพความคงทนในระยะยาวได้อีกด้วย
- ปัญหาสีโป่งพอง หรือสีลอก
อีกหนึ่งปัญหาฮอตฮิต ของสีทาภายนอก ที่พบได้บ่อย นั้นก็คือปัญหาสีโป่งพอง หรือ สีเริ่มหลุดลอก ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ของปัญหานี้อาจมาจาก ขั้นตอนการทาสีที่ไม่ถูกต้อง เช่น ข้ามขั้นตอนการลงรองพื้น หรือ ไม่ได้ทำความสะอาดพื้นผิวให้พร้อมก่อนจะลงสีทาบ้าน ทำให้สีทาทับหน้าไม่สามารถยึดเกาะผนังได้เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจจะเกิดได้จากการสะสมความชื้นจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ชั้นฟิล์มสีเกิดปัญหาโป่งพอง และลอกล่อนตามมาได้
แนวทางการแก้ไข ปัญหาสีโป่งพอง ลอกล่อน จะคล้ายคลึงกับการจัดการปัญหาสีซีดจาง นั่นก็คือการทาสีผนังใหม่ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เตรียมพื้นผิวที่จะทาสีให้สะอาด ขัดลอกสีเก่าออก และปรับสภาพพื้นผิวให้เรียบเนียน อุดรอยโป๊ว รอยแตกร้าว
- เลือกลงสีรองพื้นให้เหมาะกับพื้นผิว เพื่อเสริมแรงยึดเกาะของสีทาทับหน้า
- เลือกทาสีทับหน้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อการใช้งานในระยะยาว
- ปัญหาคราบเชื้อรา หรือคราบตะไคร่น้ำ
อย่างที่พอจะทราบกันว่า คราบเชื้อรา และคราบตะไคร่น้ำ เกิดจากการสะสมความชื้นเป็นระยะเวลานาน ซึ่งผนังบ้านภายนอกก็มักจะเป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนอยู่เป็นประจำ ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาความชื้นสะสม และยิ่งโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว คงไม่สามารถเลี่ยงการเกิดคราบเชื้อราและคราบตะไคร่น้ำได้
อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญ บางครั้งปัญหาคราบเชื้อราเหล่านี้ อาจเกิดจากการสะสมความชื้นภายในบ้านเอง เช่นความชื้นบนผนัง จากการรั่วซึมของฝ้าเพดาน หรือปัญหารั่วซึมบริเวณผนังห้องน้ำ จนเกิดเป็นเชื้อรา
แนวทางการแก้ไข ปัญหาคราบเชื้อรา หรือคราบตะไคร่น้ำ
- หาสาเหตุของการรั่วซึม เช่น หากมีรอยรั่วซึม บริเวณฝ้าเพดาน ให้ทำการอุดรอย โป๊วผนังก่อน เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคต
- เตรียมพื้นผิวให้พร้อมสำหรับการทาสีผนังบ้านใหม่ โดยให้ขัดเอาคราบตะไคร่น้ำออกให้สะอาด และทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นให้ใช้น้ำยากำจัดเชื้อรา และตะไคร่น้ำ โมลด์ คิลเลอร์ แอนตี้ แว๊บ เพื่อกำจัดสปอร์ของเชื้อราที่อาจฝังลึกอยู่บนพื้นผิว
- ลงสีรองพื้น ให้เหมาะสมกับพื้นผิว
- เลือกทาสีทับหน้าที่มีคุณภาพ
- ปัญหาผิวสี แตกลายงา
สำหรับบ้านใครที่เจอปัญหา ผิวสี มีรอยแตกงา ให้สันนิษฐานเลยว่า ที่ผ่านมา อาจจะมีการทาสีทับหน้าลงบนสีเดิมที่ยังแห้งไม่สนิทดี ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป สีทาบ้านชั้นล่างจะเกิดการหดตัว และทำให้เกิดรอยแตกลายได้ ปัญหานี้หากไม่รีบแก้ไข ก็อาจจะพัฒนากลายไปเป็นปัญหาน้ำรั่วซึม จนเกิดการสะสมของเชื้อราและตะไคร่น้ำ ตามมาได้
แนวทางการแก้ไข ปัญหาผิวสีแตกลาย อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นแล้วว่า ปัญหานี้เกิดจากการทาทับหน้าตอนที่สีเดิมยังไม่แห้งสนิท ฉะนั้นการแก้ปัญหารอบนี้ จึงควรทิ้งระยะเวลาให้มั่นใจก่อนว่าสีทาบ้านแห้งสนิทดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำ ๆ
- ขัดทำความสะอาดพื้นผิวเดิม
- ลงสีรองพื้น โดยอาจจะเลือกใช้สีรองพื้นที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อเสริมประสิทธิภาพของสีทาทับหน้า และช่วยลดปัญหาฟิล์มสีหดตัวได้
- ทาสีทับหน้า อย่างน้อย 2 เที่ยว โดยให้เว้นระยะเวลาให้ฟิล์มสีแห้งสนิทก่อนจะลงทับรอบที่ 2
- ปัญหาสนิม บนโครงเหล็ก
อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อย นอกจากปัญหาสีทาภายนอก นั้นก็คือ ปัญหาการเสื่อมสภาพ ของโครงสร้างเหล็ก หรือโครงประตูเหล็ก ที่เมื่อใช้ไปนาน ๆ แล้วก็มักจะเกิดสนิมขึ้นมาได้
แนวทางการแก้ปัญหา สนิมบนโครงเหล็ก
- เตรียมพื้นผิว ขัดเอาสนิมเก่าออกให้เกลี้ยง และขัดให้พื้นผิวเรียบด้วยกระดาษทราย
- ทาสีโครงสร้างเหล็กด้วย Mark 2in1 อย่างน้อย 2 เที่ยว
ปัญหาสีทาภายนอก อาจเกิดได้จากปัจจัยที่หลากหลาย ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อย่าลืมใส่ใจขั้นตอนการทาสีที่ถูกต้อง เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพของฟิล์มสี ให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาว รวมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และเหมาะสมกับปัญหา อย่าง กัปตัน LonglifeShield+ ผลิตภัณฑ์สีอะคริลิคทาบ้าน ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ดูราพลัสอะคริลิก ให้ฟิล์มสีที่ทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ มลภาวะ และยังช่วยสะท้อนรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ เสริมให้ฟิล์มสี สวย เรียงตัวแน่น ติดทน ยาวนานกว่า 10 ปี หมดปัญหาสีซีดจาง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี แว็กซี่ชิลด์ ช่วยเคลือบชั้นฟิล์ม ป้องกันการฝังตัวของคราบน้ำ และคราบน้ำมัน ทนทานต่อการเกิดเชื้อรา สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญรับประกันความทนทาน มั่นใจได้ว่า สีผนังบ้านของคุณจะสวยยาวนานแน่นอน