หนึ่งในปัญหาใหญ่ของคนทำบ้านที่มักมองข้าม นั่นคือโครงสร้างเหล็ก หรือวัสดุที่เป็นเหล็กในบ้าน ที่ในระยะแรกอาจจะยังมีความสวยงามอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็กลับเกิดเป็นสนิมจนต้องรีบซ่อมแซม
บทความนี้ มาดูกันว่างานเหล็กในบ้านควรเลือกใช้สีกันสนิมแบบไหนดี พร้อมรู้จักกับประเภทสีกันสนิมแต่ละแบบ เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้สีกันสนิมที่เหมาะสมมากที่สุด
ทำไมต้องใช้สีกันสนิม ทาสีบ้านต้องรู้

พื้นผิวเหล็กในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็ก เสาเหล็ก คานเหล็ก ราวเหล็ก ประตูเหล็ก กรงเหล็ก รั้วเหล็ก หรืออื่นๆ เป็นวัสดุที่เกิดสนิมได้ง่าย
เนื่องจากเหล็กจะทำปฏิกิริยากับน้ำและความชื้นในอากาศ และเกิดเป็นสนิมเหล็กขึ้นเป็นคราบสีแดง ทำให้เกิดการผุกร่อน ความแข็งแรงลดลง และยังสามารถลุกลามไปทั่วบริเวณได้อย่างรวดเร็ว จึงต้องป้องกันและหาทางแก้ให้เร็วที่สุด
สีกันสนิมหรือสีรองพื้นกันสนิม จึงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สีทาบ้านที่ช่วยป้องกันและจัดการปัญหาสนิมได้เป็นอย่างดี โดยฟิล์มสีจะทำการเคลือบพื้นผิวเหล็ก ไม่ให้สัมผัสกับอากาศได้ง่าย โอกาสการเกิดสนิมจึงมีน้อยลง ที่สำคัญยังช่วยให้สีที่ต้องการทาทับหน้าลงไปบนพื้นผิวเหล็กสามารถยึดเกาะได้อย่างแข็งแรง สวยทนทาน
สีกันสนิมหรือสีรองพื้นกันสนิม กับคุณสมบัติเด่น
- เคลือบพื้นผิวเหล็ก ป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี
- เพิ่มการยึดเกาะให้สีทับหน้า ยึดติดแน่น สวยทนยาวนาน
พื้นผิวแบบไหนที่ต้องใช้สีกันสนิม
สำหรับการใช้งานสีกันสนิม จะเหมาะกับพื้นผิวเหล็กและโลหะภายในบ้าน ที่เกิดสนิมขึ้นมาได้ง่าย และส่งผลให้พื้นผิวเกิดความไม่สวยงาม ความแข็งแรงลดลง ซึ่งถ้าปล่อยเอาไว้ระยะยาวความแข็งแรงของเหล็กจากสูญเสียไปและกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข เสียทั้งเงินและเวลาในการจัดการ
โดยการใช้งานสีรองพื้นกันสนิมกับพื้นผิวเหล็ก จะสามารถมาใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวใหม่ที่ยังไม่ได้ทาสี หรือพื้นผิวที่เคยทาสีแล้วและมีปัญหาสนิม ก็สามารถแก้ไขปัญหาสนิมและทาสีให้กลับมาสวยงามได้เหมือนเดิม
สีกันสนิมมีกี่ประเภท?
สำหรับสีกันสนิมหรือสีรองพื้นกันสนิม จะมีให้เลือกใช้อยู่ 3 ชนิด แบ่งออกได้เป็น
1. สีรองพื้นกันสนิมแดง
เป็นสีกันสนิมที่มีส่วนผสมของไอร์ออนออกไซด์ ผสมอัลขีดเรซินพิเศษและผงออกไซด์สีแดง ให้ฟิล์มสีออกสีน้ำตาลอมแดง เมื่อทาลงไปบนพื้นผิวแล้วจะเห็นได้ชัดเจนว่าทาสีรองพื้นกันสนิมแล้ว และพร้อมที่จะทาสีทับหน้าต่อได้
คุณสมบัติของ สีรองพื้นกันสนิมแดง
- ป้องกันการเกิดสนิมบนพื้นผิวเหล็กได้เป็นอย่างดี
- ยึดเกาะบนพื้นผิวเหล็กได้ดี
- ช่วยเพิ่มการยึดเกาะให้สีทับหน้าให้มีความทนทานสูง
2. สีรองพื้นกันสนิมเทา
เป็นสีกันสนิมที่มีส่วนผสมของไอร์ออนออกไซด์ ผสมอัลขีดเรซินพิเศษ ให้ฟิล์มสีเทา ช่วยปกปิดพื้นผิวงานเหล็กได้ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานภายใน และนิยมใช้กับงานโครงสร้างเหล็กที่ไม่ต้องการทาสีทับหน้าอีกรอบ
คุณสมบัติของ สีรองพื้นกันสนิมเทา
- ป้องกันการเกิดสนิมบนพื้นผิวเหล็กได้เป็นอย่างดี
- ยึดเกาะบนพื้นผิวเหล็กได้ดี
- ช่วยเพิ่มการยึดเกาะให้สีทับหน้าให้มีความทนทานสูง
3. สีรองพื้นกันสนิมระบบอีพ็อกซี่
สีรองพื้นกันสนิมระบบอีพ็อกซี่ชนิด 2 ส่วน มีส่วนผสมของอีพ็อกซี่เรซิ่น โพลีเอไมด์และผงซิงค์ ฟอสเฟสที่ช่วยในการป้องกันสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้ฟิล์มสีที่มีความหนา ทานทาน
เหมาะกับการใช้ในงานเหล็กหลากหลายรูปแบบ ทั้งโครงสร้างเหล็กทั่วไป งานเหล็กบริเวณที่อยู่ใกล้กับทะเล รวมถึงโรงงานที่ต้องปกป้องโครงสร้างเหล็กให้ดีที่สุด
คุณสมบัติของ สีรองพื้นกันสนิมระบบอีพ็อกซี่
- ให้ฟิล์มสีที่หนา ช่วยปกป้องพื้นผิวงานเหล็กจากสนิมได้ดีเยี่ยม
- ทนต่อแรงเสียดทาน การขูดขีดได้ดี
- เสริมการยึดเกาะให้สีทับหน้ามีความทนทานแข็งแรง
สีกันสนิมเลือกใช้แบบไหนดี?
ในการเลือกใช้งานสีกันสนิม จะแบ่งตามลักษณะของงานเหล็กออกเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ
- งานเหล็กใหม่ยังไม่เคยทาสี
- งานเหล็กที่เคยทาสีแล้ว
1. งานเหล็กใหม่ยังไม่เคยทาสี
ก่อนทาสีทับลงไปบนพื้นผิวเหล็กใหม่ สีกันสนิมหรือรองพื้นกันสนิมจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถ้าหากไม่ได้เคลือบผิวเอาไว้ด้วยสีกันสนิมก่อน โอกาสที่จะเกิดสนิมบนพื้นผิวก็มีมากขึ้นและเกิดขึ้นได้เร็ว จนทำให้พื้นผิวเหล็กไม่สวยเหมือนใหม่
การเลือกสีกันสนิมสำหรับงานเหล็กใหม่ ที่ยังไม่เคยผ่านการทาสีมาก่อน สามารถเลือกใช้เป็น สีรองพื้นแดงกันสนิมหรือสีรองพื้นเทากันสนิมก็ได้ จะช่วยป้องกันการเกิดสนิมบนพื้นผิวได้ในระยะยาว และที่สำคัญยังช่วยให้สีทับหน้าที่ทาลงไปยึดเกาะได้ดีเยี่ยม ไม่โป่งพองลอกล่อนง่าย
2. งานเหล็กที่เคยทาสีแล้ว
สำหรับงานเหล็กที่ผ่านการทาสีแล้ว และสังเกตว่ามีสนิมขึ้นมา แต่ยังคงมีความแข็งแรงดีอยู่ จะต้องกำจัดเอาคราบสนิมออกให้หมดก่อน จากนั้นจึงเลือกใช้สีกันสนิมที่สามารถหยุดการเกิดสนิมได้ทันทีและป้องกันการเกิดสนิมใหม่เพิ่มอีกในอนาคต
โดยสีกันสนิมที่เหมาะกับ งานเหล็กเก่าที่เคยทาสีและเกิดสนิม แนะนำให้เลือกใช้เป็นสีกันสนิมระบบอีพ็อกซี่ ที่ฟิล์มสีจะมีความหนาและป้องกันการเกิดสนิมได้ดี
การใช้งานสีกันสนิมที่ถูกต้อง
พื้นผิวเหล็กที่ต้องการทาสีกันสนิมและทาสีทับลงไป จะต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมพื้นผิว แล้วไล่ลำดับการทาสีไปอย่างถูกต้อง เพื่อให้สีที่เลือกทาลงไปบนงานเหล็ก สามารถเคลือบผิวและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการทาสีงานเหล็กให้ครบจบ
1. เตรียมพื้นผิวขั้นตอนแรกที่ขาดไม่ได้
ในการทาสีงานเหล็กในบ้าน จะต้องเตรียมพื้นผิวให้พร้อมสำหรับการทาสี ให้มีความสวยงามเรียบเนียน และที่สำคัญจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดสนิมได้ในระยะยาว
- สำหรับงานเหล็กเก่าที่เกิดสนิม จะต้องขัดเอาสนิมที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวออกด้วยกระดาษทรายขัดเหล็ก โดยจะต้องขัดออกให้ได้มากที่สุดหรือขัดออกจนหมดไปเลย และทำความสะอาดคราบฝุ่นจากการขัดด้วยทินเนอร์ให้เรียบร้อย
- สำหรับงานเหล็กใหม่ เพียงทำความสะอาดเช็ดเอาคราบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออก ก็พร้อมสำหรับการทาสีในขั้นตอนถัดไป
2. ทาสีกันสนิมที่ถูกประเภท
ขั้นตอนถัดไปจะเป็นการทาสีกันสนิมหรือสีรองพื้นกันสนิมลงบนพื้นผิว เพื่อเคลือบให้พื้นผิวเหล็กไม่ให้เกิดสนิมขึ้นได้ง่าย และให้ทาจำนวน 1 เที่ยวแล้วรอให้แห้ง 6-8 ชั่วโมง
โดยหลังจากทำความสะอาดพื้นผิวแล้ว ควรลงสีกันสนิมให้เรียบร้อยภายใน 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่พื้นผิวเหล็กสัมผัสกับอากาศนานเกินไป จนเกิดสนิมขึ้นมาอีกครั้ง
3. ทาสีทับหน้าที่ถูกต้อง
เมื่อสีกันสนิมแห้งดีแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการทาสีทับหน้าลงบนงานเหล็กตามเฉดสีที่เลือกเอาไว้ โดยสีที่เลือกใช้จะต้องเป็นสีน้ำมันเท่านั้น เพราะฟิล์มสีจะมีความแข็งแรง มีความเงา ทนทานสูง
สำหรับการใช้งานสีน้ำมัน จะต้องทาทั้งหมด 2 เที่ยว และทิ้งระยะห่าง 6-8 ชั่วโมง จะได้สีบนงานเหล็กที่เงาสวยยาวนาน
สีกันสนิมตัวช่วยสำคัญของงานเหล็ก ให้บ้านสวยทนทาน
ในการทาสีบ้าน ทุกจุดของบ้านล้วนต้องให้ความสำคัญ และงานเหล็กถือเป็นหนึ่งในจุดที่ต้องดูแลไม่แพ้พื้นผิวอื่นๆ เพราะถ้าหากปล่อยให้เกิดสนิมแล้ว ความแข็งแรงของวัสดุก็จะลดลง และยังทำให้บ้านดูไม่สวยงาม
สีกันสนิมจึงเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะช่วยเคลือบผิวของงานเหล็กในบ้าน ปกป้องไม่ให้เกิดสนิมขึ้นได้ง่าย ช่วยให้บ้านทุกจุดสวยงามได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาสนิม ให้การอยู่อาศัยมีความสุขที่ยาวนาน